จีน ประกาศใหม่สุดเข้มงวด เข้าประเทศต้องหาเชื้อและตรวจภูมิคุ้มกัน #โควิด 2 ชั้น คนที่เคยติดเชื้อและหายแล้วก็เข้าจีนไม่ได้ กังวลแม้มีภูมิคุ้มกันก็อาจแพร่เชื้อได้อีก หลายประเทศถูกยกเลิกวีซ่าห้ามเข้าประเทศจีน
กระทรวงการประเทศจีนประกาศมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าประเทศจีนฉบับใหม่เพิ่มความเข้มงวดมากที่สุด ผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศเข้าจีนจะต้องมีผลการตรวจ 2 ประเภท คือ กรดนิวคลิอิก nucleic acid และแอนตี้บอดี้ IgM anti-body ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนโดยสารเครื่องบิน และจะต้องรับการตรวจจากสถานพยาบาลที่กำหนดไว้เท่านั้น พร้อมส่งเอกสารให้สถานทูตจีนรับรองจึงจะเดินทางได้
.
การตรวจแอนตี้บอดี คือ การตรวจภูมิคุ้มกันโควิด ผู้ที่เคยติดเชื้อและหายดีแล้วจะมีภูมิคุ้มกัน แต่รัฐบาลจีนก็ไม่อนุญาตให้คนกลุ่มนี้เข้าประเทศ ทั้งนี้คาดว่าเป็นเพราะยังไม่มีการยืนยันว่าภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ได้นานเท่าไหร่ เพราะมีกรณีที่ผู้ที่เคยติดเชื้อแล้วกลับมาติดเชื้อซ้ำอีก รวมทั้งยังพิสูจน์ไม่ได้ว่า ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันจะไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น
จีนเป็นประเทศเดียวที่บังคับการตรวจ 2 ประเภทดังกล่าวก่อนเข้าประเทศ โดยประเทศอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะตรวจหาเชื้อว่าไม่ติดโควิดเท่านั้น ผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางเข้าประเทศจีนระบุว่า การตรวจกรดนิวคลิอิกและแอนตี้บอดี้ภายใน 48 ชั่วโมงนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ และเป็นเหมือนการปิดประเทศทางอ้อม
.
รายละเอียดจากเว็บไซต์สถานทูตจีนประจำประเทศไทย
http://www.chinaembassy.or.th/eng/sgxw/t1827900.htm
.
ในช่วงที่โควิดระบาดหนักที่เมืองอู่ฮั่นจีนประเทศปิดประเทศโดยสมบูรณ์เมื่อเดือนมีนาคม จนกระทั่งเดือนสิงหาคม รัฐบาลจีนได้ผ่อนพันให้ชาวจีนที่ติดค้างอยู่ในต่างประเทศ และผู้ที่มีวีซ่าระยะยาวกลับเข้าประเทศจีนได้ แต่ขณะนี้เกิดการระบาดระลอกใหม่ในยุโรปและหลายพื้นที่ ทำให้จีนต้องควบคุมการเข้าประเทศอย่างเข้มงวดอีกครั้ง
นอกจากต้องมีผลตรวจกรดนิวคลิอิกและแอนตี้บอดี้แล้ว เมื่อเข้าประเทศจีนยังต้องตรวจหาเชื้ออีกครั้งที่สนามบิน พร้อมกักตัว 14 วันที่โรงแรมที่กำหนดไว้ โดยออกค่าใช้จ่ายเอง และในระหว่างการกักตัวก็จะมีการสุ่มตรวจหาเชื้ออย่างเข้มงวด
.
จีนยังจำกัดการเข้าประเทศทางอ้อมด้วยการลดจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศ ตารางบินล่าสุดตั้งแต่ 25 ต.ค. ถึง 27 มี.ค. ปีหน้า พบว่ามีเที่ยวบินเข้า-ออกประเทศจีนที่ได้รับอนุญาตเพียงแค่ 592 เที่ยว เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน ลดลงถึง 96.8%
กระทรวงการประเทศจีนยังห้ามผู้ที่เดินทางจากประเทศอังกฤษ เบลเยี่ยม บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์ รัสเซีย และอิตาลี เข้าประเทศจีน แม้ว่าผู้ที่มีวีซ่าอยู่แล้วก็ไม่สามารถเข้าจีนได้
.
นอกจากนี้ นักธุรกิจจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้และหลายประเทศที่ได้สิทธิ์ผ่อนผันให้เข้าประเทศจีนได้อีกครั้งเมื่อเดือนกันยายน ขณะนี้ สถานทูตจีนได้ระงับการออกวีซ่าให้กับครอบครัวและผู้ติดตามนักธุรกิจเหล่านี้ไม่สามารถเข้าประเทศจีนได้.
cr. http://www.chinaembassy.or.th/eng/sgxw/t1827900.htm